การตรวจเอกซเรย์ปอด มีขั้นตอนอย่างไร บอกอะไรได้บ้าง
ประเทศไทยในช่วงปัจจุบัน ยังคงเผชิญโรคระบาดโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดอยู่ในชีวิตประจำวัน ทำให้ผู้คนต่างเตรียมตัวการป้องกันเชื้อโรคผ่านทางอากาศด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันเชื้อโรคระบาดเหล่านี้เข้าสู่ทางระบบหายใจอย่างระมัดระวัง
จึงทำให้ “การเอกซเรย์ปอด” เป็นเครื่องมือสำคัญในการวินิจฉัยระบบการทำงานอวัยวะภายในที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเช็คตั้งแต่บริเวณอวัยวะส่วนทรวงอกจนไปถึงส่วนของโครงสร้างกระดูกที่ครอบคลุมบริเวณปอดและหัวใจ ซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญในการดำเนินชีวิตของมนุษย์
ดังนั้นทางโรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ จะทำการอธิบายขั้นตอนการเอกซเรย์ส่วนทรวงอกแบบเบื้องต้นมีอะไรบ้าง? เอกซเรย์ปอด ราคาเท่าไหร่? และเครื่องเอกซเรย์แต่ละประเภทมีการทำงานอย่างไร? ไขทุกข้อสงสัยในบทความนี้
สารบัญบทความ
การเอกซเรย์ปอด (Chest X-ray) คือ การตรวจเช็คอวัยวะภายในของบริเวณส่วนทรวงอกที่ประกอบไปด้วยโครงกระดูก ปอด และหัวใจเป็นหลัก โดยรูปแบบการทำงานของเครื่องเอกซเรย์ปอดจะใช้รังสีวิทยาฉายในการบันทึกถ่ายภาพส่วนทรวงอกลงแผ่นฟิล์มสีดำ จากนั้นแพทย์จะนำแผ่นฟิล์มที่จับภาพทรวงอกของคนไข้ไปล้าง เพื่อให้ได้ภาพรังสีเอกซเรย์ปอดทั้งหมด
ปัจจุบันวิทยาการเอกซเรย์ปอดได้มีการพัฒนาให้ภาพฉายรังสีถูกสแกนเป็นระบบดิจิตอล ทำให้ผู้ป่วยใช้เวลารอผลการดำเนินการจากเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ปอดได้โดยไม่เสียเวลา
การเอกซเรย์ปอดเป็นหนึ่งในการตรวจสุขภาพประจำปีที่สำคัญในการวินิฉัยข้อมูลให้คนไข้รับทราบสภาวะร่างกายภายในส่วนทรวงอกของตัวเองในปัจจุบันดังต่อไปนี้
- ผู้ป่วยที่เข้ารับการตรวจด้วยเอกซเรย์ทรวงอก จะทราบระบบการทำงานภายในปัจจุบันของปอดและอวัยวะส่วนอื่น ๆ ของตนเองไม่ว่าจะเป็นระบบการไหลเวียนของเส้นเลือด โครงสร้างกระดูก การทำงานของหัวใจ และระบบทางเดินหายใจที่มีส่วนในการส่งออกซิเจนเข้าสู่ปอด
- ภาพเอกซเรย์ปอดเป็นอีกหนึ่งข้อมูลในการวินิจฉัยโรค ร่วมกับการสังเกตอาการทางกายภาพของคนไข้ เพื่อบ่งชี้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นของอวัยวะภายใน เช่น อาการไอเรื้อรังทางกายภาพของผู้ป่วยสามารถให้ทางแพทย์ทำการเอกซเรย์ปอดเพื่อตรวจเช็คสภาพการทำงานของระบบหายใจได้ถูกจุด
- ภาพเอกซเรย์ปอดยังสามารถช่วยวินิจฉัยโรคที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะส่วนอื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นหัวใจหรือกระดูกที่มีส่วนการทำงานร่วมกับปอด ยกตัวอย่างเช่น โรคมะเร็งลุกลาม การไหลเวียนของหลอดเลือดผิดปกติ และการแตกร้าวของโครงกระดูก
โดยทั่วไป วิธีเอกซเรย์ปอดแบ่งการตรวจออกเป็น 4 รูปแบบ ได้แก่
1. การเอกซเรย์ปอดแบบทั่วไปด้วยรังสีเอ็กซ์ (CXR)
การเอกซเรย์ปอดด้วยรังสีเอ็กซ์ (CXR) คือ การใช้รังสีเอ็กซ์ชนิดนี้เป็นตัวกลางในการฉายภาพถ่ายอวัยวะภายในส่วนทรวงอก เพื่อให้แพทย์ตรวจเช็คสภาพการทำงานผิดปกติอวัยวะภายในของผู้ป่วย
โดยวิธีการทำงานของรังสีนี้ เมื่อถูกฉายไปยังส่วนร่างกายในระหว่างการบันทึกภาพ ตัวเนื้อเยื่อของร่างกายที่ถูกจับฉายไว้นั้น จะทำการดูดซึมรังสีเอ็กซ์แล้วบันทึกภาพลงในแผ่นฟิลม์
จากนั้นจะเกิดภาพ ดำ เทา หรือ ขาว ในส่วนบริเวณที่ถูกถ่าย โดยความเข้มข้นของสีภาพถ่าย จะเป็นตัวบ่งชี้ลักษณะโครงสร้างอวัยวะบริเวณทรวงอกแต่ละส่วน เช่น สีขาวเกิดจากความเข้มข้นของสารแคลเซียมสูงโดยส่วนใหญ่จะเป็นสีที่แสดงส่วนของโครงสร้างกระดูก สีดำเกิดจากบริเวณเนื้อเยื่อมีอากาศ มักจะเป็นบริเวณส่วนของปอด
2. การเอกซเรย์ปอดด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan)
การเอกซเรย์ปอดด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) คือ การใช้รังสีเอ็กซ์ในการฉายไปยังอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทั้งหมดที่ต้องการจะตรวจ แล้วหลังจากทำการฉายเสร็จเรียบร้อยตัวคอมพิวเตอร์จำทำการสแกนและประมวลผลภาพฉายลงในระบบดิจิตอลหรือแสดงเป็นภาพถ่ายแบบ 3 มิติ ในการโชว์รูปกับคนไข้
โดยวิธีการทำงานของเอกซเรย์ปอดนี้ ทางแพทย์จะทำการตรวจเช็คบริเวณส่วนทรวงอกแบบเชิงลึก เพื่อทำการดูสภาพการทำงานของขนาดเนื้อเยื่อที่ครอบคลุมก้อนปอด ที่ประกอบไปด้วย เส้นเลือดปอด เส้นเลือดแดงใหญ่ เส้นเลือดเลี้ยงหัวใจ ปริมาณน้ำในปอด และความจุของปอด
อีกทั้งเอกซเรย์ปอดชนิด CT Scan สามารถตัวเช็คโครงสร้างกระดูกโดยรอบของบริเวณทรวงอกอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการดูลักษณะของโครงกระดูกที่เสียหาย ทั้งการแตกหัก บิดเบี้ยว การทับอวัยวะส่วนอื่น ๆ และการติดเชื้อภายในทางกระดูกอย่าง วัณโรคกระดูก และมะเร็งกระดูก
3. การเอกซเรย์ปอดด้วยคอมพิวเตอร์แบบใช้ปริมาณรังสีต่ำ (LDCT)
การเอกซเรย์ปอดด้วยคอมพิวเตอร์แบบใช้ปริมาณรังสีต่ำ (LDCT) คือ การตรวจเช็คสภาพอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งในบริเวณทรวงอกโดยเฉพาะ เป็นเครื่องมือนืยมในการตรวจสอบการทำงานของเซลล์มะเร็งในปอดโดยใช้รังสีเอ็กซ์ในปริมาณฉายแสงต่ำ
โดยการประมวลภาพปอดจะเป็นการลงภาพถ่ายแบบ 3 มิติ ที่แสดงภาพในการดูก้อนมะเร็งแต่ละจุดที่แพร่กระจายไปยังส่วนของปอด และอวัยวะบริเวณอื่นๆ ได้อย่างละเอียดและชัดเจน เพื่อให้แพทย์ได้ดำเนินการรักษาได้อย่างแม่นยำ
โดยวิธีการทำงานของเอกซเรย์ปอดนี้ ทางแพทย์จะทำการตรวจเช็ควิธีการนี้ ในกรณีก้อนมะเร็งที่มีขนาดใหญ่ แต่ไม่บดบังส่วนซอกบริเวณปอดต่าง ๆ เช่น หัวใจ กระดูก เป็นต้น
4. การเอกซเรย์ปอดด้วยเครื่องสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)
การเอกซเรย์ปอดด้วยเครื่องสนามแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) คือ การนำร่างกายของผู้ป่วย เข้าสู่เครื่องตรวจที่มีคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้า จากนั้นตัวสนามไฟฟ้าจะปล่อยคลื่นความถี่วิทยุ เพื่อทำการฉายภาพประมวลเป็นภาพถ่าย 3 มิติ ที่แสดงผลภาพส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ละเอียดและชัดเจนกว่าการตรวจเอกซเรย์ปอดแบบ CT scans
โดยวิธีการทำงานของเอกซเรย์ปอดนี้ ทางแพทย์จะใช้เครื่องส่งสัญญาณคลื่นวิทยุความถี่จำเพาะ (Radiofrequency) เข้าไปกระตุ้นระบบอวัยวะที่จะตรวจ และหยุดการทำงานของโมเลกุลอะตอมชนิดไฮโดรเจนภายในร่างกาย ให้มีการคายพลังงานกำทอน (Resonance) ในบริเวณที่ถูกกระตุ้น และส่งต่อตัวรับสัญญาณที่ได้ แล้วแปลงเป็นสัญญาณภาพถ่ายออกมา
การตรวจเอกซเรย์ปอด ทำให้คนไข้รับทราบสภาวะการทำงานภายในบริเวณส่วนทรวงออกในปัจจุบันได้อย่างชัดเจน เพื่อวินิจฉัยอาการผิดปกติ และโรคที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำ จากส่วนประกอบ 3 อวัยวะสำคัญดังต่อไปนี้
1. สภาพปอด
ผลเอกซเรย์ปอด สามารถตรวจเช็คส่วนประกอบการทำงานที่ผิดปกติภายในปอด ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเช็คขนาด ปริมาณ และการติดเชื้อจากระบบทางเดินหายใจ เช่น ขนาดถุงลมในปอด ภาวะปอดบวม เนื้องอก ปอดเป็นจุดคล้ายวัณโรค หรือแม้แต่สภาวะปอดทำงานผิดปกติอันเนื่องมาจาก
อาการโควิด เป็นต้น
2. สุขภาพหัวใจ
การเอกซเรย์ปอด สามารถตรวจเช็คอาการทำงานและโรคแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของหัวใจที่ผิดปกติได้ ไม่ว่าจะเป็นการ
ตรวจหัวใจเพื่อดูขนาดหรือเส้นเลือด เช่น หัวใจบวมมีรูปร่างปกติ และการทำงานผิดปกติของหลอดเลือดดำและหลอดเลือดแดง
3. กระดูก
ภาพถ่ายโครงกระดูก เป็นข้อมูลภาพให้ทางแพทย์สามารถตรวจเช็ค สภาพการทำงานของกระดูกที่หู่อหุ้มอวัยวะส่วนอื่น ๆภายในบริเวณทรวงอกได้อย่างทั่วถึง ไม่ว่าจะเป็นสภาพกระดูกที่มีการเสื่อมสภาพของแคลเซียมที่ ร้าว แตกหัก หรือสภาพรูปร่างที่มีความผิดเป็นธรรมชาติที่เกิดการบิด งอ ในส่วนซี่โครงและกระดูกสันหลัง
คนไข้ที่สมควรได้รับการเข้าตรวจเอกซเรย์ปอด เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการตรวจสุขภาพประจำปี ในการติดตามสภาพอาการอย่างใกล้ชิด มีดังต่อไปนี้
- ผู้ที่มีปัญหาทางด้านระบบทางเดินหายใจ จากการติดเชื้อ และรับสารพิษทางอากาศ ที่ก่อให้เกิดอาการหายใจไม่อิ่ม รู้สึกลำบาก เหนื่อยง่าย และ เจ็บทรวงอก ได้แก่ ผู้ติดเชื้อโควิด-19, โรคหอบหืด, วัณโรคทางหายใจ, ปอดอักเสบ เป็นต้น
- ผู้ที่มีที่มีปัญหาทางด้านกระดูกและข้อ จากการติดเชื้อ การเสื่อมสภาพแคลเซียมของกระดูก การขึ้นรูปร่างผิดปกติ และการกดทบไปยังส่วนระบบอวัยวะอื่น ๆ เช่น กระดูกพรุน โรคข้อเข่าเสื่อม และการเกิดอุบัติเหตุที่สร้างผลกระทบตัวกระดูกให้เกิดการแตกหัก เป็นต้น
- ผู้ที่มีที่มีปัญหาทางด้านหัวใจ จากการทำงานภายในของหัวใจที่ผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็น อาการเจ็บแน่นหน้าอกบริเวณหัวใจ รู้สึกหอบ ขาบวม และอัตราการเต้นหัวใจผิดปกติ ได้แก่ โรคหัวใจ, โรคกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง, โรคลิ้นหัวใจ เป็นต้น
วิธีการเตรียมตัวก่อนเอกซเรย์ปอด มีดังต่อไปนี้
- ก่อนเข้ารับการเอกซเรย์ปอดไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวใด ๆ เป็นพิเศษ สามารถรับประทานอาหารและน้ำได้ตามกิจวัตรประจำวัน ในกรณีที่ผู้ป่วยต้องทานยาประจำ สามารถทานแบบต่อเนื่องได้อย่างปกติ
- สวมใส่เสื้อผ้าที่โปร่งและสบายตัว ไม่ใส่เสื้อผ้าที่พอดีกับตัวเสื้อมากเกินไป และงดสวมใส่เครื่องประดับประเภทโลหะในวันที่เอกซเรย์ปอด
- ขั้นตอนในการตรวจเอกซเรย์ปอด คนไข้ต้องสวมใส่เสื้อสำหรับเอกซเรย์ (X-ray gown) และถอดเครื่องประดับทุกส่วนของร่างกายออกให้หมด ในกรณีคนไข้ผู้หญิง ต้องถอดชุดชั้นในออก หากผมยาวควรมัดผมให้พ้นบริเวณต้นคอ
ขั้นตอนการเอกซเรย์ปอดมี 4 ขั้นตอนดังต่อไปนี้
- คนไข้ที่ทำการตกลงการเอกซเรย์ปอดกับแพทย์เฉพาะทาง ทางแพทย์จะส่งข้อมูลของผู้ป่วยไปยังแผนกรังสีวิทยา เพื่อให้บุคคลากรรับทราบข้อมูลและจัดการเตรียมเครื่องมือสำกรับการเอกซเรย์ปอดให้กับคนไข้
- เมื่อคนไข้ไปถึงแผนกรังสีวิทยา จะมีบุคลากรทำการสอบถามประวัติคนไข้ แล้วเตรียมชุดสำหรับการเอกซเรย์ปอดให้กับคนไข้ไปเปลี่ยนชุด และถอดเครื่องประดับที่ติดอยู่กับร่างกายออกทั้งหมด
- เมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จเรียบร้อย ทางบุคคลากรจะเรียกคนไข้เข้าสู่ห้องเอกซเรย์ แล้วทำการจัดท่าทางในการตรวจเพื่อให้ได้ภาพที่ถูกต้องในขณะฉายรังสีบริเวณทรวงอก
- เมื่อตรวจเสร็จเรียบร้อย ทางบุคลลากรจะให้คนไข้เปลี่ยนชุดและกลับไปหาแพทย์เฉพาะทางที่ทำการนัดรักษาไว้ และรอฟังรายงานผลจากการเอกซเรย์ปอด
อย่างที่พวกเราทราบกันดีว่า ผลเอกซเรย์ปอดมักมาในรูปแบบแผ่นภาพฟิล์ม แล้วแบบนี้เราจะรู้ได้ยังไงว่าภาพเอกซเรย์ปอดปกติหรือผิดปกติ? มันมีลักษณะแตกต่างกันอย่างไร? ทิ้งความกังวลใจไปได้เลย เพราะทางเรามีวิธีดูฟิล์ม X-ray ปอดฉบับง่ายๆ มาให้คุณได้ลองดูไปพร้อมๆ กัน ดังนี้
ผลเอกซเรย์ปอดปกติ
สภาพผลเอกซเรย์ปกติ จะดูจากสภาพรูปร่าง โครงสร้างกระดูก เนื้อเยื่อห่อหุ้มภายในอวัยวะส่วนต่าง ๆ ในบริเวณทรวงอก มีการทำงานปกติ ไม่บวม และไม่มีส่วนใดที่โดนอวัยวะส่วนไหนกดทับกัน
ผลเอกซเรย์ปอดผิดปกติ
สภาพผลเอกซเรย์ผิดปกติ จะดูจาก สภาพรูปร่าง โครงสร้างกระดูก เนื้อเยื่อห่อหุ้มภายในอวัยวะส่วนต่าง ๆ ในบริเวณทรวงอก มีการทำงานไม่เป็นไปตามกลไกลธรรมชาติ ส่วนใดส่วนหนึ่งของอวัยวะเกิดการติดเชื้อหรือมีการกดทับอวัยวะส่วนอื่น ๆ จนเกิดการทำงานติดขัด หรือระบบการทำงานหายใจไม่เป็นไปตามจังหวะ ทำให้ส่วนของปอด หรือ หัวใจ เกิดอาการบวมได้
โดยรูปแบบที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน เช่น การตรวจเจอภาวะ
โควิดลงปอด หรือหลังจากเข้ารับการรักษาโรคโควิดเสร็จสิ้นแล้ว ยังตรวจพบเรื่องของอาการ
ลองโควิดที่ปรากฏขึ้นรบกวนการทำงานของอวัยวะภายใน เป็นต้น
เอกซเรย์ปอดต้องถอดเสื้อไหม
การเอกซเรย์ปอด คนไข้ต้องถอดเสื้อออกทั้งหมดเพื่อเตรียมตัวสวมใส่เสื้อสำหรับการเอกซเรย์โดยเฉพาะ ในขั้นตอนการดำเนินการตรวจคนไข้ต้องถอดเครื่องประดับที่มีส่วนผสมโลหะออก และหากผมยาวควรมัดรวบผมให้พ้นบริเวณต้นคอ
เอกซเรย์ปอดอันตรายไหม
การเอกซเรย์ปอดไม่สร้างอันตรายให้กับบริเวณที่ถูกฉายรังสีแต่อย่างใด คนไข้ที่ได้รับฉายรังสีการสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ ในกรณีที่ผู้ป่วยได้รับการเอกซเรย์ปอดด้วย CT scan อาจได้รับรังสีชนิดพิเศษในระหว่างการสแกนร่างกายที่ก่อให้เกิดสารมะเร็งได้ คนไข้ต้องรับเงื่อนไขการตรวจประเภทนี้ และสามารถงดระยะการตรวจเป็นครั้งเป็นคราวได้ เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งจากการเอกซเรย์ปอด
ขณะเอกซเรย์ปอดรู้สึกอย่างไร
ขณะเอกซเรย์ปอดจะรู้สึกปกติ ไม่มีสิ่งใดมากระทบกระเทือนในขณะที่ตรวจใด ๆ
เอกซเรย์ปอด รอผลนานไหม
ระยะเวลาการรอผลเอกซเรย์ปอดแต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความละเอียดและความซับซ้อนของข้อมูล โดยส่วนใหญ่ ผู้ที่เอกซเรย์ปอดแบบทั่วไป (CXR) มักจะสามารถทราบผลหลังการตรวจจากแพทย์ผู้ดูแลได้เลย ส่วนวิธีการเอกซเรย์ปอดอื่นๆ เช่น CT Scan, LDCT, MRI อาจต้องใช้ระยะเวลาในการรอผลค่อนข้างนาน เนื่องจากต้องส่งข้อมูลให้แพทย์เฉพาะทางด้านรังสีวิทยา เพื่อความแม่นยำในการแปลผลนั่นเอง
การเอกซเรย์ปอดเป็นสิ่งสำคัญในการตรวจดูสภาพภายในของอวัยวะส่วนทรวงอก เพื่อดูระบบการทำงานและโรคแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นจากอาการที่แสดงออกจากร่างกายภายนอกของผู้ป่วย เพื่อเป็นภาพถ่ายในการวินิจฉัยสภาพอาการในการรักษาได้อย่างถูกจุด
ผู้สนใจที่ต้องการเอกซเรย์ปอด หรือเอกซเรย์อวัยวะบริเวณทรวงอกอย่างการตรวจหัวใจและ
ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ สามารถติดต่อสอบถามกับทีมแพทย์เฉพาะทาง
โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ได้ที่ Line
@samitivejchinatown หรือเบอร์ 02-118-7893 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เอกสารอ้างอิง