สารบัญบทความ
- ชั้นไขมัน (Lipid Layer)
ชั้นไขมันเป็นชั้นที่อยู่นอกสุดของชั้นน้ำตา โดยจะช่วยไม่ให้น้ำตาระเหยเร็วมากเกินไป ชั้นไขมันถูกสร้างจากต่อมไขมันที่มีชื่อเรียกว่า Meibomian Glans
- ชั้นของเหลวที่เป็นน้ำ (Aqueous Layer)
ชั้นของเหลวที่เป็นน้ำ หรือเรียกง่ายๆว่า ชั้นน้ำ เป็นชั้นที่อยู่ระหว่างกลาง Lipid Layer และ Mucin Layer ชั้นน้ำถือเป็นส่วนประกอบหลักของน้ำตา ทำหน้าที่ปกป้องดวงตา โดยจะผลิตน้ำตาออกมาล้างสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาในดวงตา ชั้นน้ำถูกสร้างมาจากต่อมน้ำตาที่มีชื่อว่า Lacrimal Glans
- ชั้นเมือก (Mucin Layer)
ชั้นเมือกเป็นชั้นที่อยู่ด้านในสุดของชั้นน้ำตา ทำหน้าที่ให้กระจกตาคงความชุ่มชื้นอยู่เสมอ ชั้นเมือกสร้างมาจากเซลล์ที่มีชื่อว่า Goblet cell ที่อยู่ในเยื่อบุตาและในกระจกตา
โดยสาเหตุของอาการตาแห้งมีหลากหลาย สามารถแบ่งได้เป็น 2 สาเหตุหลักๆ คือ
อาการตาแห้งสามารถเกิดขึ้นได้ เมื่อกระบวนการผลิตน้ำตาไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ทางการแพทย์เรียกว่า Keratoconjunctivitis Sicca โดยสาเหตุที่ทำให้กระบวนการสร้างน้ำตาน้อยกว่าปกติ ได้แก่
อาการตาแห้ง เคืองตา อาจมาจากการระเหยของน้ำตาที่เร็วกว่าปกติ ซึ่งมีสาเหตุจากฟิล์มน้ำตา ในชั้นนอกสุดหรือที่เรียกว่า ชั้นไขมัน เกิดการอุดตัน การอุดตันของชั้นฟิล์มน้ำตามักพบได้บ่อยในผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบโรซาเซีย (Rosacea) หรือโรคทางผิวหนัง รวมทั้งยังสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้การระเหยของน้ำตาเร็วกว่าปกติ ได้แก่
โดยปกติแล้วเมื่อเกิดภาวะตาแห้ง มักมีอาการพร้อมกันทั้ง 2 ข้าง ซึ่งมีอาการดังต่อไปนี้
หากมีอาการเหล่านี้คุณมีโอกาสที่จะเป็นโรคตาแห้ง ควรพบไปจักษุแพทย์เพื่อหาสาเหตุ และรักษาโดยเร็วเพื่อความปลอดภัยของดวงตา
กลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดภาวะตาแห้ง ได้แก่
หากปล่อยอาการตาแห้ง โดยไม่ไปพบจักษุแพทย์หรือรีบทำการรักษา อาจจะส่งผลให้เกิดผลข้างเคียงและเกิดภาวะอื่น ๆ ตามมา ได้แก่
สำหรับผู้ป่วยบางราย ที่มาอาการตาแห้ง มีน้ำตาไหลเยอะ เนื่องมาจากผิวตาแห้งและกระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองจนเกิดการอักเสบ หากปล่อยทิ้งไว้มีโอกาสที่จะเกิดเป็นแผลเรื้อรังอาจทำให้กระจกตาทะลุ หรือถึงขั้นรุนแรงที่สุดอาจถึงขั้นตาบอดได้ ดังนั้นจึงไม่ควรละเลยภาวะตาแห้ง
หากรู้สึกตาแห้งมากไม่หายสักที รวมถึงตาแดง ระคายเคืองที่ตา เหนื่อยล้า เจ็บปวดบริเวณดวงตา หรือไม่สามารถมองเห็นได้ปกติ ควรรีบไปพบจักษุแพทย์โดยทันที เพื่อประเมินอาการและทำการรักษาได้ทันเวลา ควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประจำวันให้เหมาะสม ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการและลดความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นได้
การรักษาอาการตาแห้งหรือ โรคตาแห้ง ควรรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อการรักษาที่มีประสิทธิภาพที่สุด นอกจากนี้การปล่อยให้ตาแห้งเป็นระยะเวลานานจะทำให้ในส่วนของการรักษายากขึ้นกว่าเดิม
โดยปกติแล้ว การวินิจฉัยของโรคตาแห้งจะทำโดยจักษุแพทย์ ซึ่งจะเน้นประเมินปริมาณและคุณภาพของน้ำตาเป็นหลัก ขั้นตอนการตรวจวินิจฉัย มีดังนี้
1. ใช้น้ำตาเทียม
เนื่องจากน้ำตาเทียม คือ ของเหลวที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้นแก่ดวงตา สามารถใช้เพื่อทดแทนน้ำตาตามธรรมชาติ น้ำตาเทียมจึงสามารถช่วยบรรเทาอาการตาแห้ง เคืองตา และแสบตาได้ รวมไปถึงสามารถใช้น้ำตาเทียมเพื่อเป็นสารหล่อลื่นให้กับดวงตาในขณะที่ใส่คอนแทคเลนส์ ประเภทของน้ำตาเทียมมี 3 ประเภท ดังนี้
ข้อควรระวังในการใช้น้ำตาเทียม
ผู้ป่วยที่มีตาแห้งน้อย ควรหยอดตาไม่เกินวันละ 4-5 ครั้ง และสามารถใช้น้ำยาหยอดตาที่มีสารกันเสียได้ แต่สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการตาแห้งมาก ควรหยอดตามากกว่า 6 ครั้งต่อวัน และควรใช้ยาหยอดตาที่ไม่มีสารกันเสียเป็นส่วนผสม (Preservative - Free Tear) แทน โดยยาหยอดตาชนิดนี้จำเป็นต้องใช้ให้หมดภายใน 24 ชั่วโมงเท่านั้น เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรค
2. นวดเปลือกตา (Eyelid Massaging)
การนวดเปลือกตาเพื่อบรรเทาอาการตาแห้งเรื้อรัง การนวดที่เปลือกตาเป็นการกดและรีดตามแนวการวางตัวของต่อมไขมัน (Meibomian gland) ที่ขอบเปลือกตา เมื่อต้องการนวดเปลือกตาบนให้มองลงล่าง และใช้นิ้วมือดึงหางตาให้เปลือกตาตึง ใช้นิ้วของมืออีกข้างนวดจากบนลงล่าง หากต้องการนวดเปลือกตาล่างให้มองขึ้นบน และใช้นิ้วนวดจากล่างขึ้นบน เริ่มนวดจากหัวตาไปหางตา เพื่อนวดต่อมไขมันที่อยู่บริเวณโคนขนตาได้ตลอดแนวยาวของเปลือกตา
3. ประคบอุ่นบริเวณเปลือกตา (Eyelid Warming)
วิธีนี้ช่วยให้ไขมันที่อุดตันท่อทางออกของต่อมไขมันละลายตัว และขับไขมันออกมาได้ดีมากขึ้น สามารถใช้เจลประคบร้อน ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น ผ้าห่อไข่ต้ม โดยใช้ความร้อนที่ประมาณ 40 องศาเซลเซียส ประคบบริเวณเปลือกตาทั้งสองข้างเป็นเวลา 10 - 15 นาที ระวังอย่าให้ร้อนหรือเย็นเกินไป หากใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเมื่ออุณหภูมิลดลง สามารถนำผ้าชุบน้ำอุ่นใหม่เพื่อให้ได้อุณหภูมิที่เหมาะสมตลอดการประคบอุ่น
4. ทำความสะอาดเปลือกตา (Eyelid Cleansing)
วิธีนี้ทำได้ง่าย และสะดวก เพียงนำสำลีชุบด้วยน้ำสะอาดที่ผสมยาสระผมสำหรับเด็กอ่อน อัตราส่วน คือ 1:10 หรืออาจใช้น้ำยาเฉพาะสำหรับทำความสะอาดเปลือกตา เช็ดบริเวณขอบเปลือกตาและโคนขนตาให้สะอาด แนะนำทำ 1 - 2 ครั้งต่อวัน
5. ปรับพฤติกรรมประจำวัน
การปรับพฤติกรรมประจำวัน เป็นวิธีแก้ตาแห้ง ธรรมชาติได้ โดยการพักสายตาเป็นระยะ ควรพักสายตาทุก 20 นาที พัก (หลับตา) 20 วินาที และเตือนตัวเองให้กระพริบตาบ่อยขึ้น นอกจากนี้ ควันบุหรี่ยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการตาแห้งได้ ควรหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ และสวมแว่นตาเมื่อจำเป็นที่ต้องทำกิจกรรมที่โดนลมแรงๆ
6. ใช้เครื่องทำความชื้น
หากมีอาการตาแห้งจากสภาพอากาศที่แห้ง ภายในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศ ลองใช้เครื่องทำความชื้นเพิ่มความชื้นในห้อง เพื่อลดอาการตาแห้ง
7. งดการใส่คอนแทคเลนส์
เนื่องจากคอนแทคเลนส์จำเป็นต้องดึงน้ำตาจากกระจกตามาใช้ เพื่อให้คอนแทคเลนส์มีความใสอยู่ตลอดเวลา ทำให้สามารถเกิดอาการเคืองตา ตาแห้งได้ และคอนแทคเลนส์ยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้คุณภาพน้ำตาเปลี่ยนแปลงไป ทำให้การไหลเวียนของน้ำตาที่กระจกตาลดลงด้วย
หากจำเป็นต้องใส่คอนแทคเลนส์ แนะนำให้ใส่แบบ Soft lens จะช่วยคงความชุ่มชื้นและทำให้สบายตามากกว่าคอนแทคเลนส์แบบปกติ
1. การใช้ยารักษาอาการตาแห้ง
เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษา ยาทุกชนิดควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
2. น้ำตาซีรั่ม
น้ำตาซีรั่ม คือ การนำเลือดผู้ป่วยมาทำเป็นยาหยอดตา ซึ่งมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับน้ำตาธรรมชาติ มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคตาแห้ง ทั้งนี้จักษุแพทย์จะพิจารณ์เลือกใช้ความเข้มข้น และวิธีการเตรียมซีรั่มแตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่มักใช้ความเข้มข้นที่ 20% Autologyous Serum Eye Drops สามารถใช้รักษาโรคตาแห้งที่มีอาการปานกลางจนไปถึงอาการรุนแรง
3. อุดรูระบายน้ำตา
วิธีนี้เหมาะกับผู้ที่มีอาการรุนแรง ตาแห้งมาก การอุดระบายน้ำตาเพื่อขังน้ำตาที่มีอยู่ให้หล่อเลี้ยงตา ทำให้น้ำตาไม่ไหลลงทิ้งไป การอุดรูระบายน้ำตาเป็นเหมือนการสร้างเขื่อนกั้นน้ำเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ การอุดรูระบายน้ำมี 2 แบบ คือ อุดรูระบายน้ำชั่วคราว และ อุดรูระบายน้ำถาวร
การอุดรูระบายน้ำชั่วคราว จักษุแพทย์จะสอดคอลลาเจนขนาดเล็กเข้าไปในรูท่อน้ำตา โดยคอลลาเจนจะสลายไปเองภายใน 3 สัปดาห์ วิธีนี้ช่วยทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายตามากขึ้น สำหรับการอุดรูระบายน้ำถาวรนั้นจะขึ้นอยู่กับอาการความรุนแรงของผู้ป่วย และดุลยพินิจของจักษุแพทย์
4. ใช้คอนแทคเลนส์ ชนิดพิเศษ
สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องสวมคอนแทคเลนส์ สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อใช้คอนแทคเลนส์ ชนิดพิเศษ หรือที่เรียกว่า Scleral Lens ที่ออกแบบมาเพื่อคนที่มีปัญหาตาแห้ง หรือระคายเคืองได้ง่าย เนื่องจากตัวเลนส์จะเก็บน้ำไว้ใต้เลนส์ตลอดเวลาทำให้ดวงตาและกระจกตาไม่แห้ง
หากคุณมีอาการตาแห้ง คันตา แสบตา หรือเคืองตา ให้ลองสังเกตพฤติกรรมประจำวันของตนเอง ว่ามีปัจจัยใดบ้าง ที่สามารถก่อให้เกิดภาวะตาแห้ง แล้วลองปรับเพื่อปกป้องดวงตาของคุณ หรือลองทำตามวิธีดังต่อไปนี้ เพื่อป้องกันดวงตาให้ห่างไกลจากภาวะตาแห้ง
สำหรับผู้ที่มีอาการระคายเคืองไม่สบายตา ในเบื้องต้นสามารถใช้น้ำตาเทียมหยอด เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ดวงตาได้ แต่ถ้าคุณมีอาการตาแห้ง ไม่สบายตารุนแรง และเป็นมานานไม่หายสักที แนะนำให้คุณรีบไปพบจักษุแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาได้ทันเวลา
โดยทั่วไปแล้วภาวะตาแห้ง หรือ โรคตาแห้ง สามารถทำให้คุณมีอาการตาพร่ามัว น้ำตาไหล แสบตา ระคายเคืองตาได้ หากปล่อยอาการตาแห้งไวนานๆ อาจจะทำให้เกิดแผลที่กระจกตา และถ้าเป็นแผลเรื้อรังสามารถทำให้กระจกตาทะลุได้ ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นตาบอด ดังนั้นหากมีอาการตาแห้ง ควรรีบไปพบจักษุแพทย์เพื่อทำการรักษา
อาการตาแห้ง สามารถบรรเทาอาการได้ด้วยตัวเองด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และสามารถใช้ยาหยอดตาเพื่อบรรเทาอาการตาแห้ง และอาการระคายเคืองได้ แต่วิธีรักษาภาวะตาแห้งได้ดีที่สุด คือ การไปพบจักษุแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้และรับการรักษาที่เหมาะสม รวมถึงขอคำแนะนำในการดูแลรักษาดวงตาให้กลับมามีสุขภาพดีอีกครั้ง
โรคตาแห้ง สามารถทำให้เกิดอาการระคายเคืองตา แสบตา รู้สึกเหมือนมีเศษฝุ่นอยู่ในตา อาจมีน้ำตาไหลร่วมด้วย หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อที่บริเวณกระจกตา ซึ่งสามารถทำให้อาการรุนแรงถึงขั้นตาบอดได้ ดังนั้นเมื่อมีอาการตาแห้ง ควรรีบไปพบจักษุแพทย์ทันที เพื่อหาตรวจสายตาวิธีรักษาและคำแนะนำการดูแลดวงตาให้กลับมาสุขภาพดีอีกครั้ง
หากผู้ป่วยมีอาการผิดปกติทางด้านสายตาสามารถติดต่อสอบถามกับทีมจักษุแพทย์เฉพาะทางโรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ได้ที่ Line @samitivejchinatown หรือเบอร์ 02-118-7893 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
เอกสารอ้างอิง :
Mayo Clinic. (2020, Sep 24). Dry eyes. Mayo Clinic.
https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/dry-eyes/symptoms-causes/syc-20371863
Badii, C. & Robinson, D. (2020, Jul 06). Dry eye Syndrome. Healthline.
https://www.healthline.com/health/dry-eye-syndrome
American optometric association. (n.d.). Dry eye. Aoa.
https://www.aoa.org/healthy-eyes/eye-and-vision-conditions/dry-eye?sso=y
Boyd, K. (2021, Sep 15). What Is Dry Eye? Symptoms, Causes and Treatment. American
Academy of Ophthalmogy. https://www.aao.org/eye-health/diseases/what-is-dry-eye