Home Isolation ผู้ป่วยโควิด รักษาตัวที่บ้าน มีวิธีปฏิบัติตัวอย่างไร?
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่คลี่คลายลง ตัวเลขผู้ป่วยยังคงเพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน ส่งผลให้บางพื้นที่มีโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ป่วยบางคนจำเป็นต้องดูแลรักษาตัวที่บ้าน เพื่อควบคุมไม่ให้โรคโควิด-19 แพร่ระบาดไปสู่คนในครอบครัว เพื่อน หรือคนที่ทำงานได้
จึงเกิดการรักษาโควิดแบบ Home Isolation ขึ้น โดย Home Isolation หรือการแยกกักตัวที่บ้านเหมาะกับผู้ป่วยบางกลุ่ม เช่น กลุ่มที่อาการไม่ร้ายแรงและสามารถเฝ้าสังเกตอาการที่บ้านได้ หรือผู้ป่วยที่ไม่สะดวกจะย้ายไปพักรักษาตัวในสถานพยาบาล การเตรียมสภาพแวดล้อมที่พักอาศัยให้เอื้ออำนวยต่อการฟื้นตัวจากโควิดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถฟื้นฟูได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สารบัญบทความ
การแยกกักตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation คือ แนวทางการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่เฝ้าดูอาการที่บ้าน เพื่อให้สามารถดูแลรักษาตัวเองและพักฟื้นได้แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาลก็ตาม
โดยผู้ป่วยโฮมไอโซเลชั่นที่ทำแยกกักตัวที่บ้านก็ยังได้รับความดูแลจากแพทย์เพื่อเฝ้าติดตามอาการป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะเป็นการเฝ้าดูแลจากระยะไกลก็ตาม โดยจะมีทีมแพทย์คอยสังเกตอาการและให้คำแนะนำออนไลน์ทุกวันผ่าน Telehealth หรือ Telemedicine ซึ่งคือบริการดูแลสุขภาพทางไกลผ่านเครื่องมือสื่อสาร
Home Isolation (โฮมไอโซเลชั่น) หรือการแยกกักตัวที่บ้าน เป็นการรักษาที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่อยู่ในเกณฑ์ดังนี้
- ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ หรืออาการไม่หนัก ที่รอเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยแพทย์พิจารณาแล้วว่าสามารถ Home Isolation รักษาตัวเองที่บ้านได้
- ผู้ป่วยที่รักษาตัวที่โรงพยาบาล สถานที่กักตัว Hospitel หรือสถานที่ที่รัฐจัดให้อย่างน้อยครบ 10 วัน และแพทย์มีความเห็นให้ทำ Home Isolation ต่อได้
ผู้ป่วยที่รักษาตัวที่โรงพยาบาล สถานที่กักตัว Hospitel หรือสถานที่ที่รัฐจัดให้อย่างน้อยครบ 10 วัน และแพทย์มีความเห็นให้ทำ Home Isolation ต่อได้

คุณสมบัติของผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์เข้ารับการรักษาแบบ Home Isolation มีดังนี้
- เป็นผู้ติดเชื้อที่สบายดี หรือไม่มีอาการ เป็นผู้ป่วยสีเขียว (Asymptomatic Cases)
- สุขภาพร่างกายแข็งแรง
- มีอายุไม่เกิน 60 ปี
- สามารถกักตัวได้ในที่พักอาศัยของตนเอง
- อาศัยอยู่คนเดียว หรือมีผู้ร่วมอาศัยด้วยไม่เกิน 1 คน
- ไม่มีภาวะอ้วน หรือภาวะน้ำหนักเกินมาตรฐาน (ดัชนีมวลกายต้องไม่เกิน 30 กิโลกรัม./ม.2 หรือ มีน้ำหนักตัวไม่เกิน 90 กิโลกรัม)
- ไม่มีโรคประจำตัวดังต่อไปนี้ โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ โรงปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรงไตเรื้อรัง (ระยะที่ 3,4) โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคอื่นๆ ตามดุลพินิจของแพทย์

ก่อนที่จะเข้ารับการกักตัวแบบ Home Isolation ได้ ต้องทราบก่อนว่าอาการโควิด-19 ที่เป็นอยู่นั้นมีอาการระดับใด โดยกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณะสุข กรมควบคุมโรค ได้แบ่งระดับผู้ป่วยโควิด-19 ตามอาการออกเป็น 3 ระดับดังนี้
1. ผู้ป่วยสีเขียว
- มีอาการเบาคล้ายหวัด หรือไม่มีอาการเลย
- มีอุณหภูมิร่างกายตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป
- จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส
- มีอาการไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ
- มีผื่นแดงโควิด
- ถ่ายเหลว
- ไม่มีอาการหายใจลำบาก
- ไม่มีอาการหายใจเหนื่อย
- ไม่มีอาการหายใจเร็ว
- ไม่มีอาการปอดอักเสบ
- ไม่มีปัจจัยเสี่ยงเป็นโรครุนแรงหรือโรคร่วมสำคัญ
2. ผู้ป่วยสีเหลือง
- แน่นหน้าอก
- หายใจไม่สะดวก หายใจลำบาก หายใจเร็ว
- เวียนหัว อ่อนเพลีย ไอแล้วมีอาการเหนื่อย
- ขับถ่ายเหลว 3 ครั้งต่อวันขึ้นไป
- มีอาการหน้ามืด วิงเวียน
- ปอดอักเสบ
- มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง หรือ โรคร่วมสำคัญ ข้อใดข้อหนึ่ง
3. ผู้ป่วยสีแดง
- แน่นหน้าอกตลอดเวลา หายใจแล้วเจ็บหน้าอก
- ตอบสนองช้า ไม่รู้สึกตัว มีอาการซึม
- หอบเหนื่อย พูดไม่เป็นประโยค
- ปอดอักเสบรุนแรง ระบบหายใจมีปัญหา หายใจลำบาก
- มีภาวะปอดบอม ความอิ่มตัวของเลือดน้อยกว่า 96% หรือมีภาวะลดลงของออกซิเจน 3% ของค่าที่วัดได้ครั้งแรกขณะออกแรง
คำถามที่พบบ่อยคือเมื่อติดเชื้อโควิดแล้วต้องทำอย่างไร โดยการรักษาโควิดที่บ้านมีขั้นตอนดังนี้
- เมื่อรู้ตัวว่าเสี่ยง หรือมีอาการใกล้เคียง ให้ใช้ชุดตรวจโควิด Antigen Test Kit ที่ผ่านการรับรองการกรมการอาหารและยา ตรวจโควิด-19 ด้วยตัวเองหรือตรวจจากหน่วยตรวจโควิดเชิงรุก
- หากติดเชื้อ (มีผลตรวจเป็นบวก) ให้ติดต่อ 1330 กด 14 สายด่วน สปสช. หรือแอดไลน์ สปสช. @nhno หรือกรอกข้อมูลผ่านแบบฟอร์ม https://crmsup.nhso.go.th/
- รอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ หลังจากจับคู่ผู้ป่วยกับคลินิกศูนย์บริการสาธารณสุข หรือโรงพยาบาลที่จะรับหน้าที่ดูแลผู้ป่วยในระบบ Home isolation
- รับคำวินิจฉัยจากแพทย์ หากอยู่ในกลุ่มสีเขียวที่ไม่มีอาการ สามารถกักตัวรักษา Home Isolation ได้
สิ่งที่ผู้ป่วยโควิด-19 จะได้รับเมื่อรักษาตัวอยู่บ้าน Home Isolation คือ
- อาหาร 3 มื้อ
- อุปกรณ์ประเมินอาการ คือ ปรอทวัดไข้ และเครื่องวัดออกซิเจนในเลือดแบบหนีบนิ้ว เพื่อประเมินการแลกเปลี่ยนก๊าซในปอดว่าปกติหรือไม่ ค่าปกติจะอยู่ที่ 91-100% หากต่ำกว่า 94% เป็นภาวะที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะมีแนวโน้มที่เชื้อโควิด-19 จะลงปอด ควรรีบติดต่อแพทย์
- ยารับประทาน ตามดุลพินิจของแพทย์
- ประเมินอาการผ่านระบบ telemedicine ทุกวัน โดยผู้ป่วยและบุคคลากรทางการแพทย์จะสามารถพูดคุยโต้ตอบกันได้แบบ Real-time
- หากอาการเปลี่ยนแปลงหรือแย่ลง ให้รีบแจ้งทีมแพทย์ และนำตัวส่งโรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลจะมีรถไปรับเพื่อนำส่งเข้ารับการักษาที่โรงพยาบาล

การปฏิบัติตัว Home Isolation สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ขณะโฮม ไอโซเลทจากกรมควบคุมโรคมีดังนี้
- ไม่ออกจากที่พัก
- อยู่ในห้องส่วนตัวตลอดเวลา
- ไม่ให้บุคคลอื่นมาเยี่ยม
- หากอยู่ในที่พักอาศัยร่วมกับบุคคลอื่น ต้องรักษาระยะห่างไม่ต่ำกว่า 2 เมตร และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
- ไม่รับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
- ล้างมือด้วยสลู่หรือเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งหลังสัมผัสของใช้ต่างๆ
- แยกของใช้ส่วนตัวกับผู้อื่น
- แยกซักเสื้อผ้า และเครื่องนอน ด้วยน้ำและสบู่ หรือผงซักฟอก
- ใช้ห้องน้ำแยกจากผู้อื่นที่อาศัยอยู่ในที่พัก
- แยกขยะ โดยมัดปากถุงให้แน่น
การกักตัว Home Isolation สำหรับผู้ที่พักอาศัยอยู่บ้าน หรือคอนโดมิเนียม ควรเตรียมสถานที่ดังนี้
- แยกส่วนหรือพื้นที่เว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร
- หากมีพื้นที่จำกัด ให้ทำฉากกั้นระหว่างผู้กักตัวและผู้อาศัยท่านอื่นๆ
- จัดห้องพักให้อากาศถ่ายเทสะดวก ปลอดโปร่ง มีแสงแดดเข้าถึง
- แยกของใช้ส่วนตัว
- ซักผ้าด้วยน้ำอุณหภูมิ 60-90 องศาเซลเซียส อย่างน้อย 25 นาที ตากแดดให้แห้ง
- หากต้องใช้ห้องน้ำร่วมกับสมาชิกในบ้าน ให้ใช้ห้องน้ำเป็นคนสุดท้าย และทำความสะอาดให้เรียบร้อย

ของใช้ที่ต้องมีสำหรับวิธีการรักษาโควิดที่บ้านหรือการกักตัว Home Isolationคือ
- อุปกรณ์ทานอาหารส่วนตัว เช่น ช้อนส้อม จามชาม แก้วน้ำ
- ถุงแยกขยะติดเชื้อ
- หน้ากากอนามัย โดยควรสวมตลอดเวลาที่ไม่ได้อยู่คนเดียว
- ยาสามัญประจำบ้าน สำหรับปฐมพยาบาลเบื้องต้อน เช่น ยาลดไข้ เจลแก้ไข้
- เจลแอลกอฮอล์ สบู่ล้างมือ
- แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ 70% ใช้ทำความสะอาดของใช้หรือสิ่งของที่ใช้รวมกับผู้อื่น เช่น ลูกบิด ราวบันได
- ปรอทวัดไข้ และเครื่องวัดออกซิเจนแบบหนีบนิ้ว ซึ่งทางโรงพยาบาลจะเป็นผู้จัดส่งให้
- ของใช้ส่วนตัว เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ห้ามใช้ร่วมกับผู้อื่นโดดเด็ดขาด
ยารักษาโควิดที่บ้าน มีอะไรบ้าง
สำหรับคำถามที่ว่า เป็นโควิดกินยาอะไร? ยาที่ผู้ป่วยที่รักษาโควิดด้วยตัวเองโดยการทำ Home Isolation ควรมีติดไว้ที่บ้าน คือให้ผู้ป่วยพิจารณาจากอาการของผู้ป่วย เพื่อบรรเทาอาการโควิดตามอาการที่ผู้ป่วยมี ดังนี้
- ยาโรคประจำตัวของผู้ป่วย
- ยาลดไข้
- ยาแก้ไอ
- ยาละลายเสมหะ
- ยาลดน้ำมูก
- ยาแก้แพ้ ลดน้ำมูก
ข้อควรระวังในการใช้ยา
กลุ่มผู้ป่วยที่ต้องระวังเรื่องยาขณะรักษาตัวที่บ้าน Home Isolation คือ
ระหว่างรอเตียง พยายามตรวจน้ำตาลในเลือดให้สม่ำเสมอ หากน้ำตาลสูง สามารถใช้ยาเดิมที่หมอจ่ายให้ได้ แต่หากน้ำตาลต่ำ ต้องงดอินซูลิน หรือยาประเภทกิน เพราะเมื่อเป็นโควิด น้ำตาลต่ำจะอัยตรายกว่าปกติ
ในกรณีที่ดื่มน้ำน้อย ควรงดหรือลดยาลงไปก่อน เพราะการปัสสาวะออกมาโดยที่ไม่มีน้ำเติมเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและขาดน้ำได้ หากมีอาการไข้ร่วมด้วย จะยิ่งส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลียยิ่งกว่าเดิม
ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ทำ Home Isolation ต้องหมั่นสังเกตอาการตัวเอง วัดอุณหภูมิด้วยอุปกรณ์ประเมินอาการที่ได้รับมา และวัดออกซิเจนทุกวัน หากรักษา home isolation กักตัวอยู่บ้านจนหายจากโรคแล้ว ให้สังเกตอาการลองโควิดด้วย
หากอาการป่วยรุนแรงขึ้น มีอาการหอบเหนื่อย ไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส ไม่สามารถดำเนินกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ ให้รีบติดต่อแพทย์เพื่อประสานไปยังโรงพยาบาลที่รักษาอยู่ และดำเนินการรับผู้ป่วยเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลเป็นขั้นต่อไป ขณะเดินทางไปโรงพยาบาลต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ทำ Home Isolation รักษาตัวที่บ้าน ต้องกักตัวอยู่บ้านเป็นเวลาอย่างน้อย 10 วัน นับตั้งแต่วันที่เริ่มมีอาการป่วย หรือตรวจพบเชื้อ หากครบ 10 วันแล้วยังมีอาการควรแยกตัวจนกว่าอาการจะหายไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง เพื่อลดการแพร่เชื้อให้แก่ผู้อื่น ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์หากไม่มั่นใจในระยะเวลาการหยุดกักตัว
การทำ Home Isolation แบบถูกวิธี จัดสถานที่กักตัวให้เหมาะสม สามารถเพิ่มความปลอดภัยให้ตัวเอง ยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสังคมได้ ผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรง หรือไม่มีอาการ การกักตัว Home Isolation เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะช่วยหยุดการแพร่เชื้อโควิด-19 ไปยังคนในครอบครัวหรือคนในชุมชน ทั้งยังช่วยลดความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาลอีกด้วย