Hospital Hotline

02-118-7893

  เปลี่ยนภาษา
English ภาษาไทย 中文(简体)

บทความสุขภาพ

PM 2.5 กระตุ้นสิว ผิวแพ้ง่าย


 
  • ก๊าซพิษ เกิดจากการรวมตัวของไอน้ำ และฝุ่นควัน ซึ่งถือแนสารตั้งต้นของ PM 2.5 ที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว กระตุ้นการเกิดสิว และทำให้ผิวแพ้ง่าย
  • มีงานวิจัยว่ามลพิษของอากาศ ส่งผลให้สารต้านอนุมูลอิสระของผิวลดลงและภูมิต้านทานผิวหนังแย่ลง ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื่น เกิดอาการแพ้ง่าย เป็นสิวได้ง่ายกว่าคนที่ไม่ค่อยได้สัมผัสมลพิษทางอากาศ
  • แสงแดดเป็นตัวกระตุ้นให้มลพิษทางอากาศทำงานได้ดีขึ้น การปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านตอนเช้า เป็นตัวช่วยป้องกันผิวจากมลพิษได้

“มลพิษทางอากาศ” ถือเป็นปัญหาที่คนทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้  เรามักเจอมลพิษทางอากาศในรูปแบบของเขม่าควันเสียจากรถยนต์ จากโรงงานอุตสาหกรรม การเผาไหม้ตามที่ต่างๆ ซึ่งมีทั้งขนาดใหญ่จนตามองเห็นและที่มองไม่เห็น เช่น อนุภาคขนาดเล็ก (PM) ซึ่งจากข้อมูลการศึกษาที่ผ่านมา พบว่าต่างก็มีผลกระทบต่อผิวพรรณของเราทั้งสิ้น ยกตัวอย่างเช่น
 

มลพิษจากควันรถ


มลพิษจากควันรถ จะมีส่วนประกอบของสารกลุ่ม PAHs หรือ Polycyclic Aromatic Hydrocarbons ซึ่งสามารถเกิดได้เองตามธรรมชาติจากกระบวนการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของสารอินทรีย์ รวมทั้งควันจากท่อไอเสียรถยนต์และควันบุหรี่ การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรม การกลั่นน้ำมันดิบ เป็นต้น
สารในกลุ่มนี้ เมื่อเจอกับรังสี UVA จะก่ออนุมูลอิสระ ซึ่งทำลายเซลล์ผิวหนัง  และกระตุ้นสารก่อการอักเสบ ส่งผลให้เกิดสิว ริ้วรอยจากอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังกระตุ้นให้มีการสร้างเม็ดสีที่ผิดปกติมากขึ้น

 

มลพิษจาก Particulate Matter (PM)


Particulate Matter หรือ PM คืออนุภาคขนาดต่าง ๆ ที่มีหน่วยเป็นไมครอน (1 ใน 1,000 ของมิลลิเมตร) แขวนล่องลอยในอากาศ บ้างก็ใหญ่พอที่จะเห็นด้วยตาเปล่าและบ้างก็มีขนาดเล็กมากจนมองไม่เห็น
Particulate Matter ที่เล็กกว่า 10 ไมครอน เช่น PM 2.5 จัดเป็นมลพิษที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมากที่สุด เพราะระบบป้องกันในโพรงจมูกของเราไม่สามารถดักจับเอาไว้ได้ และเมื่อเข้าสู่ร่างกาย จะแพร่กระจายเข้าสู่ทางเดินหายใจ กระแสเลือด และแทรกซึมสู่กระบวนการทำงานของอวัยวะต่างๆ ทำให้เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคเรื้อรังและมะเร็ง
ปกติแล้ว สารตั้งต้นของ PM 2.5 คือ ก๊าซพิษ ซึ่งได้แก่ ออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx) ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2)  และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon monoxide : CO)  ที่ล้วนแล้วแต่เป็นสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายของมนุษย์ทั้งสิ้น  โดยมลภาวะเหล่านี้ทำตัวเสมือนสารก่อระคายเคืองผิว จนกระตุ้นให้มีการหลั่งสารไซโตไคน์ (Cytokines) ก่อให้เกิดการอักเสบ ผิวแพ้ง่าย และระคายเคืองได้
มีงานวิจัยการศึกษาจากในเม็กซิโก และเซี่ยงไฮ้ ชี้ให้เห็นชัดเจนว่ามลพิษของอากาศ ส่งผลให้สารต้านอนุมูลอิสระของผิวลดลงและภูมิต้านทานผิวหนังแย่ลง ทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื่น แพ้ง่าย เป็นสิวได้ง่ายกว่าคนที่ไม่ค่อยได้สัมผัสมลพิษทางอากาศ

 

การป้องกันผิวจากมลพิษทางอากาศ

 
  • ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่จำเป็นต้องออกข้างนอกบ้าน หรือต้องผ่านที่โล่งแจ้ง โดยแนะนำให้ใส่หน้ากากพิเศษชนิดที่เรียกว่า “เอ็นเก้าห้า (N95)”
  • ออกกำลังกายในที่ที่มีฝุ่นน้อย ห่างจากถนน อาจเปลี่ยนเป็นออกในบ้านหรือฟิตเนส แทนการวิ่งตามสวนสาธารณะ
  • เครื่องสำอางปกป้องผิวจากแสงแดด เพราะแสงแดดเป็นตัวกระตุ้นให้มลพิษทางอากาศทำงานได้ดีขึ้น การปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านตอนเช้า จึงเป็นตัวช่วยที่ดี
  • ทาครีมบำรุงผิวที่ผสมสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซี วิตามินอี แอสต้าแซนติน โคเอนไซม์คิวเท็น
  • รับประทานผักและผลไม้หลากสีสัน เพื่อรับสารต้านอนุมูลอิสระให้ร่างกายไว้ใช้ต่อสู้กับมลพิษทางอากาศ
  • รับประทานอาหารเสริมปกป้องผิวจากแสงแดด มลภาวะ และลดการอักเสบให้ผิว เช่น ไฮดร็อกซีไทโรซอล (Hydroxytyrosol) และเวอร์บาสโคไซด์ (Verbascoside) ที่พบได้ในผลและใบมะกอก สารแอสต้าแซนติน (Astaxanthin) จากสาหร่ายสีแดง (Haematococcus Pluvialis) สารสกัดจากเมล็ดองุ่นและเปลือกสน (Grape seed and Pine Bark Extract)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม