Femto LASIK เลสิคไร้ใบมีด นวัตกรรมใหม่แก้ไขปัญหาสายตาสั้น และเอียง
เชื่อว่า ใครหลายๆคน คงอยากจะมีดวงตาที่สดใสและเป็นอิสระ ไม่มีปัญหาเรื่องของภาวะสายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด หรือสายตาเอียงมากวนใจในการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยหลากหลายวิธี หนึ่งในวิธีนั้นคือ การทำเลสิค
ปัจจุบัน มีนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยแก้ไขปัญหาสายตาได้ด้วยการใช้เลสิคแบบไร้ใบมีด หรือที่เรียกกันว่า “Femto LASIK”
แล้วแบบนี้ การทำ Femtolasik ราคาเท่าไหร่? ดีไหม? ที่ไหนดี? มีขั้นตอนการทำอย่างไรบ้าง? รวมไปจนถึงคำถามยอดฮิตที่หลายๆคนอยากรู้ ไปค้นหาคำตอบพร้อมๆกันได้ในบทความนี้
สารบัญบทความ
Femto LASIK คืออะไร
Femto LASIK คือ นวัตกรรมการทำเลสิครูปแบบใหม่ที่สามารถแก้ไขปัญหาภาวะสายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด และสายตาเอียงได้ โดยการผ่าตัดแบบไร้ใบมีด หรือการใช้แสงเลเซอร์จากเครื่อง femtosecond laser รุ่น Visumax ในการสแกนไปตามความโค้งของกระจกตา ด้วยความเร็วระดับ 500 กิโลเฮิร์ตอย่างแม่นยำ
เลเซอร์ที่ใช้ในการผ่าตัดเลสิคFemto มีความถี่สูง พลังงานต่ำ ความปลอดภัยสูง กำหนดความหนาของฝากระจก และสามารถแยกชั้นกระจกตาได้อย่างเรียบเนียน ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเนื้อเยื่อบริเวณโดยรอบ ทำให้แผลกระจกตาที่ได้สามารถสมานตัวได้เร็ว อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดน้อย พักฟื้นไม่นาน ลดโอกาสในการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้อีกด้วย
รับส่วนลด Femto Lasik 1,000 เมื่อซื้อโปรแกรมตรวจประเมินสายตาก่อนทำเลสิกที่ LazadaA พร้อมรับสิทธินอน รพ. ฟรี 1 คืน
ซื้อผ่าน Lazada คลิกเลย
Femto LASIK ช่วยแก้ปัญหาสายตาแบบใดได้บ้าง
การทำFemto Lasik มีข้อดีหลายประการ ดังนี้
- การทำเลสิคFemto ช่วยแก้ไขปัญหาภาวะสายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด และสายตาเอียงได้
- ผู้ที่มีลักษณะตาค่อนข้างเล็ก สามารถใช้วิธีนี้ในการผ่าตัดได้
- เกิดผลข้างเคียงน้อย ใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นไม่มาก
- ใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดไม่นาน ผู้เข้ารับการผ่าตัดรู้สึกสบายตา ไม่เจ็บปวด
- เป็นวิธีที่สามารถลดความคลาดเคลื่อนของการแยกชั้นกระจกตา หรือลดปัญหาผิวกระจกตาถลอกได้
- มีความปลอดภัย แม่นยำ และสะดวกสบาย เนื่องจากไม่มีการเคลื่อนย้ายระหว่างการผ่าตัด
- เป็นวิธีที่สามารถกำหนดความลึก และความหนาของชั้นกระจกตาได้
ข้อแตกต่างระหว่าง Femto LASIK และ LASIK ธรรมดา
อาจมีบางคนกำลังสงสัยว่า lasik กับ femto ต่างกันยังไง? ถึงแม้ว่าทั้ง 2 รูปแบบนี้อาจมีขั้นตอนการทำที่คล้ายคลึงกัน แต่ก็ยังคงมีจุดเด่นหลักๆ ที่แตกต่างกันอยู่เล็กน้อย นั่นก็คือ เรื่องของเทคโนโลยีในการแยกชั้นกระจกตา
โดยการแยกชั้นกระจกตาแบบ Femto LASIK จะเป็นการใช้เลเซอร์ Femtosecond ยิงเข้าสู่กระจกตา ส่วนการแยกชั้นกระจกตาแบบ LASIK ธรรมดา จะเป็นการใช้ใบมีดที่เรียกว่า Microkeratome กรีดแยกชั้นกระจกตาออกมา
อีกทั้งยังมีความแตกต่างกันในแง่ของราคาค่าใช้จ่ายในการเข้ารับบริการ เนื่องจาก Femto LASIK ใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ทั้งหมด ทำให้อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า LASIK ธรรมดา
ข้อแตกต่างระหว่าง Femto LASIK กับ ReLEx SMILE
ถึงแม้ว่าการผ่าตัดแบบfemto lasik กับ relex smile จะขึ้นชื่อว่าเป็นการทำเลสิคที่ไร้ใบมีดเหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีข้อแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจน ดังนี้
Femto LASIK
การผ่าตัดแบบ Femto LASIK เป็นการผ่าตัดที่นำเอา femtosecond laser ฉายแสงเข้าสู่ดวงตา เพื่อผ่าแยกชั้นกระจกตา ทำให้เกิดการเปิดฝากระจกตาขึ้น และใช้เลเซอร์เอ็กไซเมอร์(Excimer laser) ทำการปรับความโค้งข้างในชั้นกระจกตา เมื่อปรับแต่งเสร็จแล้ว จึงปิดฝากระจกตาลงเป็นอันเสร็จสิ้น
จุดเด่นของวิธีนี้ คือ สามารถกำหนดความหนาของชั้นกระจกตาได้ ตั้งแต่ 80 - 200 ไมครอน มีระยะเวลาในการพักฟื้นเทียบเท่าหรือรวดเร็วกว่าแบบ relex smile สามารถแยกชั้นกระจกตาได้เรียบเนียน อีกทั้งยังเป็นวิธีการรักษาที่ทันสมัยที่สุดสำหรับการแก้ไขปัญหาภาวะสายตายาวโดยกำเนิด
ReLEx SMILE
การผ่าตัดแบบเลสิค
ReLex SMILE เป็นการผ่าตัดที่นำ femtosecond laser มาใช้ในการตัดแยกชั้นกระจกตาเป็นรูปเลนส์ (Lenticule) อยู่ภายในกระจกตา จากนั้นทำการกรีดเปิดแผลขนาดเล็กประมาณ 2 - 4 มิลลิเมตร เพื่อดึงกระจกตาที่ตัดไว้อยู่ภายในออกมา ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความโค้งของกระจกตา
จุดเด่นของวิธีนี้ คือ มีโอกาสเกิดภาวะตาแห้งน้อยกว่าแบบ Femto LASIK แผลที่ได้มีขนาดเล็กมาก สามารถปรับความโค้งของกระจกตาได้โดยไม่ต้องผ่าเปิดฝากระจกตา ความเสี่ยงเรื่องฝากระจกตาเลื่อนลดลง และมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่น้อยกว่า
ใครที่เหมาะกับการทำ Femto LASIK
ผู้ที่เหมาะสำหรับวิธีการผ่าตัดแบบ Femto LASIK มีดังนี้
- ผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป ค่าสายตาไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี
- คนที่มีค่าสายตาสั้นประมาณ 1,200 - 1,300 และสายตายาวหรือสายตาเอียง ไม่เกิน
- บุคคลที่ไม่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์หรือการให้นมบุตร
- บุคคลที่ไม่เป็นโรคเกี่ยวข้องกับกระจกตา เช่น โรคกระจกตาย้วย ภาวะตาแห้งระดับรุนแรง โรคต้อกระจก โรคต้อหิน
- คนที่ไม่เป็นโรคทางกายที่มีผลต่อแผล เช่น โรคเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี โรค SLE โรคสะเก็ดเงิน โรคแพ้ภูมิต้านทานตนเอง เป็นต้น
- มีสุขภาพดวงตาโดยรวมดี กระจกตามีความแข็งแรง
- มีความคาดหวังที่ถูกต้องเกี่ยวกับผลลัพธ์และการผ่าตัดแบบ Femto LASIK
- ผู้ที่ไม่สามารถใส่แว่นตา หรือคอนแทคเลนส์ได้สะดวก เนื่องจากกิจกรรมไม่เหมาะสมกับการใส่แว่นตา ความจำเป็นในการประกอบอาชีพ ฯลฯ
ข้อดีของการทำ Femto LASIK
ข้อดีของการทำเฟมโตเลสิก มีดังนี้
- เกิดผลข้างเคียงในการแยกชั้นกระจกตาน้อย
- มีความแม่นยำกว่าเลสิกธรรมดา เนื่องจากใช้เลเซอร์ในการแยกชั้นกระจกตาและปรับแต่งค่าสายตา
- รักษาได้ทั้งสายตาสั้น สายตายาวโดยกำเนิด สายตายาวตามอายุ สายตาเอียง
- หลังผ่าตัด มีโอกาสเกิดภาวะตาแห้งและการติดเชื้อที่ค่อนข้างน้อย
- กระจกตาสามารถสมานตัวและฟื้นฟูได้เร็ว โอกาสฝากระจกตาเคลื่อนมีน้อยมาก
ข้อจำกัดในการทำ Femto LASIK
สำหรับFemto lasik ข้อเสียหรือข้อจำกัดในการทำ Femto LASIK มีดังนี้
- ไม่สามารถทำได้ในบุคคลที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์ หรือการให้นมบุตร
- บางรายอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน หรืออาการบางอย่างขึ้นได้ เช่น กระจกตาหมอก
- แพทย์จะต้องมีความเชี่ยวชาญหรือชำนาญเพียงพอในการทำการผ่าตัดประเภทนี้
- หลังจากทำการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว จะต้องระมัดระวังเรื่องของอุบัติเหตุกระทบดวงตา เนื่องจากแผลผ่าตัดเป็นแผลโค้งยาวที่กระจกตา อาจทำให้เกิดการเคลื่อนจนแผลเปิดได้
- ผู้ที่เป็นโรคเกี่ยวข้องกับกระจกตา หรือผู้ที่มีโรคทางกายที่ส่งผลต่อการมองเห็น ไม่สามารถทำได้
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดหลังการทำ Femto LASIK
- การแยกชั้นกระจกตาแบบFemto LASIK อาจก่อให้เกิดรอยแผลบนกระจกตาได้
- มีโอกาสที่จะเกิดการเคลื่อนของชั้นกระจกตาได้
- ในบางรายมีภาวะตาแห้งเกิดขึ้น 6 - 12 เดือน
- อาจเกิดอาการแพ้แสงได้ชั่วคราว หลังจากทำการผ่าตัดเสร็จสิ้น
- ความแข็งแรงของเนื้อเยื่อผิวกระจกตาลดลง
- การทำเลสิคFemto อาจเกิดการอักเสบของชั้นกระจกตา อันเนื่องมาจากการสะสมของฟองอากาศ
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษา Femto LASIK
ก่อนเข้ารับการรักษาแบบ Femto LASIK จะต้องมีการเตรียมตัว ดังนี้
- ศึกษาและรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับการทำ Femto LASIK เพื่อจะได้เข้าใจตรงตามความเป็นจริง รวมไปจนถึงความคาดหวังที่มีต่อผลลัพธ์อย่างเหมาะสม
- เมื่อรับรู้แล้วว่า ต้องการทำเลสิคFemtoจริงๆ ให้คุณเริ่มศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่มีการให้บริการ โดยจะต้องพิจารณาถึงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การเดินทางสะดวก ความสะอาด รวมไปจนถึงเรื่องของค่าใช้จ่าย
- ก่อนเข้าพบจักษุแพทย์ หากคุณใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ ให้คุณงดใส่คอนแทคเลนส์ โดยคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม จะต้องงดใส่ก่อนตรวจวิเคราะห์สภาพตา เป็นเวลาอย่างน้อย 3 วัน ส่วนคอนแทคเลนส์ชนิดแข็ง หรือชนิดแข็งกึ่งนิ่ม จะต้องงดใส่ก่อนวันตรวจอย่างน้อย 14 วัน
- หากมีการรับประทานยารักษาสิว กลุ่ม Isotretinoin จำเป็นต้องงดรับประทานเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 เดือน ก่อนตรวจวิเคราะห์สภาพตา และก่อนเข้ารับการผ่าตัด
- งดดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
- กรณีที่คุณมีการรับประทานยาประจำตัว ไม่ว่าจะเป็น ยาเบาหวาน ยาเกี่ยวกับความดัน ยานอนหลับ ฯลฯ ควรแจ้งให้จักษุแพทย์ทราบ
- ก่อนเดินทางเข้ารับการตรวจวิเคราะห์สภาพตา ควรพกแว่นตากันแดด และพาผู้ดูแลมาด้วย เนื่องจากในการตรวจ จำเป็นต้องมีการหยอดยาขยายม่านตา ซึ่งจะทำให้การมองเห็นของคุณไม่ชัดเจน และดวงตาแพ้แสงได้
- เข้ารับการตรวจวิเคราะห์สภาพตา เพื่อดูว่าคุณมีสุขภาพตาเป็นอย่างไร? สามารถเข้ารับการรักษาด้วยวิธีดังกล่าวได้หรือไม่?
การตรวจวิเคราะห์สภาพสายตาก่อนเข้ารับการผ่าตัด
โดยปกติแล้ว ก่อนเข้ารับการผ่าตัด จะต้องมีการตรวจวิเคราะห์สภาพสายตาของผู้รับบริการ เพื่อนำไปเป็นข้อมูลที่ใช้ในการคำนวณวางแผนเพื่อการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ซึ่งจะมีการตรวจอย่างละเอียด ดังนี้
- การตรวจค่าสายตาจากคอมพิวเตอร์
การใช้คอมพิวเตอร์ตรวจ
ค่าสายตาในเบื้องต้น มีประโยชน์ในแง่ของความสะดวก และรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถคำนวณหาค่าสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง องศาต่างๆ ความโค้งหรือความหนาของกระจกตาได้ในเบื้องต้น
การประเมินความสามารถในการมองเห็น จะประเมินเพื่อดูว่า ผู้รับบริการสามารถมองเห็นชัดเจนได้ในระดับใด การมองเห็นในระยะใกล้ หรือการมองเห็นในระยะไกลได้แค่ไหน? โดยการให้ผู้รับบริการอ่านแผนภูมิวัดสายตาที่มีตัวเลข หรือตัวอักษรขนาดเล็กลงไปเรื่อยๆในแต่ละแถว ตามเงื่อนไขที่กำหนด
- การตรวจประเมินความดันลูกตา
ความดันของลูกตา เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน ในการรักษาแบบเลสิคFemto ดังนั้น จึงจะต้องตรวจประเมินให้แน่ใจว่า ระดับความดันภายในลูกตาว่าอยู่ในระดับปกติหรือไม่ ก่อนเข้ารับการผ่าตัด อีกทั้งระดับความดันของลูกตา ยังสามารถบอกได้ถึงแนวโน้มความเสี่ยงที่อาจเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตาได้อีกด้วย
- การตรวจวัดค่าสายตาโดยจักษุแพทย์
จักษุแพทย์จะมีการตรวจวัดค่าต่างๆเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความโค้งกระจกตา การหักเหแสง การตอบสนองต่างๆของดวงตา เป็นต้น
จักษุแพทย์สามารถตรวจประเมินภาวะตาแห้งของผู้รับบริการได้จากการวัดปริมาณน้ำตาที่มีอยู่ โดยการนำกระดาษที่ถูกผลิตขึ้นสำหรับ Schrimer’s Test โดยเฉพาะ วางเข้าไปบริเวณด้านในของหนังตาล่าง เป็นระยะเวลา 5 นาที น้ำตาที่อยู่ภายในจะค่อยๆซึมซับเข้าไปที่กระดาษ เมื่อนำกระดาษออกมาแล้ว จะสามารถวัดระยะน้ำตาเพื่อเทียบกับเกณฑ์ภาวะตาแห้งได้
ในส่วนของกระจกตา จะต้องทำการถ่ายภาพทั้งเรื่องของพื้นผิว ลักษณะรูปร่าง ความโค้ง และความหนาของกระจกตา เพื่อนำภาพถ่ายไปคำนวณและวางแผนการรักษาแต่ละรายบุคคลต่อไป
จักษุแพทย์จะมีการหยอดยาขยายม่านตา เพื่อตรวจสอบแก้วตา น้ำวุ้นตา จอประสาทตา รวมถึงส่วนอื่นๆในดวงตา ว่ามีความผิดปกติใดๆเกิดขึ้นหรือไม่ โดยการตรวจสอบขณะที่รูม่านตากว้างขึ้น จะช่วยให้สามารถวัดค่าสายตาได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากลดอาการเพ่งสายตาที่เกิดขึ้นได้
เมื่อผู้รับบริการได้หยอดยาขยายม่านตาแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การตรวจจอประสาทตา เส้นประสาทตา จุดรับภาพ ความหนาของจอประสาทตา รวมไปจนถึงการตรวจดูสัญญาณความผิดปกติต่างๆที่อาจเกิดขึ้น เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์และวางแผนการรักษา
ขั้นตอนการผ่าตัดด้วยการทำ Femto LASIK
บางคนอาจมีความรู้สึกกังวล ว่าการผ่าตัดแบบ Femto LASIK นั้นเป็นอย่างไร? น่ากลัวหรือไม่? ดังนั้น ตอนนี้เราจะมาดูเรื่องของขั้นตอนการผ่าตัด เพื่อให้คุณคลายความกังวล และเตรียมพร้อมตนเองสำหรับขั้นตอนต่างๆได้ดีขึ้น โดยปกติแล้ว การทำเลสิคFemto มีขั้นตอนการผ่าตัด ดังนี้
- เมื่อคุณพร้อมสำหรับเข้ารับการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว ผู้เชี่ยวชาญจะทำการหยอดยาชา และรอให้ยาชาออกฤทธิ์ จึงจะเริ่มทำการผ่าตัด
- >แพทย์จะใช้ femtosecond laser ในการผ่าแยกชั้นกระจกตา ตามความหนาที่ได้คำนวณไว้
- จากนั้นเปิดฝากระจกตาขึ้น และนำเลเซอร์เอ็กไซเมอร์(Excimer laser) มาทำการปรับแต่งความโค้งที่อยู่ภายในชั้นกระจกตา
- เมื่อปรับแต่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงนำฝากระจกตาลงปิดเเนบสนิทกลับเข้าสู่ตำแหน่งเดิม
- จักษุแพทย์จะทำการปิดฝาครอบตาไว้ให้เป็นอันเสร็จสิ้น
การดูแลตนเองหลังการทำ Femto LASIK
ถึงแม้ว่าคุณจะเข้ารับการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันเลย นั่นก็คือ การดูแลตนเองหลังการผ่าตัด ซึ่งมีข้อปฏิบัติที่ทุกคนควรทราบ ดังนี้
- ขณะนอนหลับ ควรใส่ที่ครอบตาไว้ เพื่อป้องกันการเผลอขยี้ตาโดยไม่รู้ตัว
- ระมัดระวังเรื่องของ น้ำ ฝุ่น เหงื่อ หรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆเข้าสู่ดวงตา
- งดกิจกรรมบางอย่างที่ไม่ค่อยจำเป็น
- พยายามนอนพักผ่อนให้มากๆ เพื่อพักฟื้นสายตา
- หยอดยาตามที่แพทย์กำหนด
- เมื่อเกิดภาวะตาแห้ง ให้ใช้น้ำตาเทียมบรรเทาอาการ
- งดการแต่งหน้าบริเวณรอบดวงตา
- ผู้ที่มีผมยาว ควรมัดผมเพื่อไม่ให้เส้นผมสัมผัสดวงตา
- หากมีความจำเป็นต้องออกไปข้างนอก ควรสวมแว่นตากันแดด
- หลีกเลี่ยงการขับรถในตอนกลางคืน เนื่องจากตาจะมองเห็นแสงเป็นแฉกๆ
- เข้าพบจักษุแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
- หากมีความผิดปกติใดๆ นอกเหนือจากดังกล่าวนี้ ควรรีบเข้าพบจักษุแพทย์โดยเร็ว
อาการข้างเคียงที่อาจพบได้หลังการผ่าตัด
- มีน้ำตาไหลออกมาเป็นจำนวนมาก
- เกิดอาการคัน หรือปวดบริเวณดวงตา
- เกิดการระคายเคืองตา แสบตา
- ตาไม่สามารถสู้แสงได้
- ความชัดเจนในการมองเห็นไม่คงที่
ค่าใช้จ่าย Femto LASIK ราคาเท่าไหร่
“Femto LASIK ราคาประมาณเท่าไหร่?” ปกติแล้ว ราคาของแต่ละสถานที่จะมีความแตกต่างกันไป โดยที่โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ของเรา มีค่าใช้จ่ายในการเข้ารับการรักษา ดังนี้
|
ประเภทเลสิค
|
ราคาปกติ
|
ช่องทางการผ่อนชำระ
|
|
Femto LASIK
|
55,000
|
บัตรเครดิตธนาคารกสิกรไทย ผ่อน 0% นาน 4 เดือน
|
|
บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ ผ่อน 0% นาน 4 เดือน หรือ 6 เดือน
|
|
บัตรเครดิตธนาคารกรุงศรีอยุธยา ผ่อน 0% นาน 10 เดือน
|
หมายเหตุ ราคาดังกล่าวสำหรับคนไทยเท่านั้น
ทำ Femto LASIK ที่ไหนดี
ภาวะสายตาสั้น คืออะไร
“ทำFemto LASIK ที่ไหนดี?” เป็นหนึ่งในคำถามยอดฮิตที่ใครหลายๆคนสงสัย แน่นอนว่า การเลือกสถานที่ที่ดี ย่อมเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการรักษาดวงตาของเรา ดังนั้น วิธีเลือกสถานที่ในการทำFemto LASIK ดีๆ มีดังนี้
-
สถานที่นั้นจะต้องมีความสะอาด ได้รับการรับรองเป็นมาตรฐาน
-
ทีมแพทย์มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และมีประสบการณ์มากเพียงพอในการทำ Femto LASIK
-
อุปกรณ์ครบครันเพียงพอต่อการรักษา
-
มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษาและบรรเทาความเจ็บปวด
-
มีการบริการที่ดี บอกรายละเอียดเกี่ยวกับการรักษา ค่าใช้จ่ายต่างๆ และมีระบบบริหารจัดการภายในที่ดี
-
สถานที่นั้น สามารถเดินทางได้สะดวก ทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถไฟฟ้าสายต่างๆ และรถประจำทาง
หากคุณยังไม่มีตัวเลือกดีๆ ที่โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ เราพร้อมดูแลรักษาคุณโดยทีมจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์ อุปกรณ์สะอาดครบครันตามมาตรฐาน อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีใหม่ๆที่เข้ามาช่วยในการรักษา ให้คุณสามารถเข้ารับการผ่าตัดได้อย่างปลอดภัย ลดความเจ็บปวด และสามารถมั่นใจในการรักษาได้ เหมือนมีคุณหมอเป็นเพื่อนบ้าน
FAQ Femto LASIK
หลังผ่าตัด Femto LASIK ต้องพักฟื้นหรือไม่
สำหรับผู้ที่เข้ารับการรักษาปัญหาสายตาแบบ Femto LASIK หลังผ่าตัดจะต้องทำการพักฟื้น เป็นระยะเวลา 2 - 3 วัน ซึ่งในเวลานั้น อาจมีความรู้สึกระคายเคืองตา น้ำตาไหลบ่อยได้บ้าง
Femto LASIK แก้ไขปัญหาสายตาได้อย่างถาวรหรือไม่
การทำเลสิคFemto คือ การแก้ไขปัญหาสายตาที่มีอยู่เดิมให้กลับมาชัดเจน แต่ไม่สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของร่างกาย หรือความเสื่อมที่เกิดขึ้นในภายหลังได้ ดังนั้น การทำFemto LASIK สามารถแก้ไขปัญหาสายตาเดิมได้อย่างถาวร แต่ไม่สามารถช่วยป้องกันปัญหาใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้นั่นเอง
ข้อสรุปเรื่อง Femto LASIK
ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น การทำ Femto LASIK คือการผ่าตัดแก้ไขปัญหาสายตาโดยใช้แสงเลเซอร์ที่มีชื่อว่า femtosecond laser ซึ่งมีความแม่นยำสูง และมีความรวดเร็วระดับ 500 กิโลเฮิร์ต ทำให้แผลที่ได้มีความเรียบเนียน สามารถสมานตัวได้เร็ว ลดความคลาดเคลื่อนในการแยกชั้นกระจกตา และเกิดผลข้างเคียงน้อย
ผู้ที่สนใจเข้ารับการรักษาด้วยวิธี Femto LASIK กับ โรงพยาบาลสมิติเวช ไชน่าทาวน์ สามารถเข้ารับคำปรึกษา และสอบถามรายละเอียดอื่นๆได้ที่ Line หรือเบอร์ 02-118-7893 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
สนใจปรึกษาทีมแพทย์เฉพาะทางด้านกระจกตา และการผ่าตัดแก้ไขสายตา ด้วยประสบการณ์ทำเลสิคกว่า 10,000 เคส
มั่นใจด้วย 2 เทคโนโลยีนำเข้าจากเยอรมันล่าสุด (German Medical Technology 2021)
References
Bashir, Z.S., Ali, M.H., Anwar, A., Ayub, M.H., Butt, N.H. (2017). Femto-lasik: The recent innovation in laser assisted refractive surgery. Journal of the Pakistan Medical Association, 67(4), 609-615.
Zimlich, R. (2021,February 18). Everything to Know About Femto Lasik. Healthline. https://www.healthline.com/health/eye-health/femto-lasik
